หญิงบอกให้ แอร์ชงชาเขียวให้สามี พีค ภรรยาตายไปนานแล้ว

หญิงบอกให้ แอร์ชงชาเขียวให้สามี พีค ภรรยาตายไปนานแล้ว

ผู้โดยสารคนหนึ่งบอกให้ แอร์ชงชาเขียวให้สามี พร้อมบอกสูตรที่สามีชอบ พีค สามีมาบอกภายหลังว่า ภรรยาตายไปนานแล้ว และอยู่ช่องเก็บสัมภาระ อดีตพนักงานต้อนรับของสายการบินเอมิเรตส์ ได้เล่าเรื่องราวสุดหลอนผ่าน TikTok โดยเธอเล่าว่า เธอเห็นผู้โดยสารหญิงคนหนึ่งนั่งข้างกับสามี ซึ่งเธอก็สังเกตได้ว่า ผู้โดยสารคนนี้ไม่ได้ทานอะไรมาเลยตั้งขึ้นเครื่องมาเลย

ซึ่งเธอก็ได้เดินถามว่า “สวัสดีค่ะคุณผู้หญิง รับอาหารว่างไหมคะ? 

ฉันเห็นคุณกับสามียังไม่ได้ทานอะไรเลย” ซึ่งทางผู้โดยสารก็ตอบว่า “ไม่เป็นไรขอบคุณ ดิชั้นไม่อยากปลุกสามี เขามีสัปดาห์ที่เหน็ดเหนื่อย” ซึ่งเธอก็บอกว่าเธอไม่หิวและขอผ้าห่ม และยังขอให้ชงชาเขียวใส่น้ำตาลให้สามี ตอนที่เขาตื่นได้ไหม

เมื่อสามีตื่นขึ้นมา ฝ่ายแอร์ก็นำเครื่องดื่มไปให้ พร้อมบอกว่า ภรรยาของเขาได้นำเครื่องดื่มมาให้ ซึ่งฝ่ายชายก็ถึงกับงง ภรรยาไหน? ซึ่งฝ่ายชายก็ถามอีกว่า เป็นชาเขียวใส่น้ำตาลและนมใช่ไหม ซึ่งฝ่ายแอร์ก็งงว่าตัวเองทำผิดรึเปล่า

โดยฝ่ายสามีก็มาเปิดเผยว่า จริงๆแล้วภรรยาของเขาเสียชีวิตไปนานตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเที่ยวบินนี้เขานำร่างของเธอกลับบ้านด้วย โดยศพของเธออยู่ในช่องเก็บสัมภาระใต้เครื่อง ทั้งนี้ฝ่ายชายก็บอกว่า เขาเชื่อว่าพนักงานสายการบินพบกับภรรยาของเขาจริง เพราะตัวสามีดื่มชาเขียวแบบนี้

คลิปนี้ได้รับการเข้าชมเป็นอย่างมาก และมีคน และมีชาวเน็ตที่มาต่างแสดงความเห็นว่ารู้สึกว่าหลอน หรือ บางส่วนที่รู้สึกซึ้งกับ ตื่นใจในความรักของผู้หญิงต่อสามี แม้เธอจะตายไปแล้วก็ตาม

ชาวเน็ตถึงกับเกาหัวแกร่กๆ หลัง ทางการสหรัฐ แนะ ประชาชน เอาคืนแฟนเก่า ด้วยการโทรฟ้องตำรวจ ถ้าหากแฟนเก่าเกี่ยวข้องกับค้าขายอาวุธปืน

เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ สำนักข่าว RT รายงานว่า สำนักแอลกอฮอล์ยาสูบอาวุธปืนและวัตถุระเบิด หรือ ATF ได้ออกมาแคมเปญรับวันแห่งความรักหรือวันวาเลนไทน์ เชิญชวนให้ประชาชนแก้แค้นแฟนเก่าที่ซื้ออาวุธอย่างผิดกฎหมาย ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ

โดยทาง ATF ระบุว่า “วันวาเลนไทน์ยังคงสนุกได้แม้พวกคุณจะเลิกกัน คุณรู้จักหรือมีข้อมูลของคนรักเก่าและคนรักปัจจุบันที่เกี่ยวกับการซื้อขายปืนอย่างผิดกฎหมายหรือไม่? แจ้งให้พวกเราทราบ และพวกเราจะไม่ทำให้พวกเขาลืมวันวาเลนไทน์นี้เลย”

ทั้งนี้การรณรงค์ดังกล่าวได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก โดยชาวเน็ตมองว่า อาจมีประชาชนที่แค้นแฟนเก่า ที่แจ้งข้อมูลปลอมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ และนำไปสู่เหตุบุกรุกและเข้าจับกุมผู้บริสุทธิ์ที่ไม่มีอาวุธปืนได้ และหากกรณีที่แย่ที่สุดอาจจะนำไปสู่การเสียชีวิตได้

แฟนสาวช็อก! หลัง แฟนหนุ่มอาบน้ำกับแม่ แม้เรียนอยู่มหาลัยแล้ว

แฟนสาว เล่าประสบการณ์สุดช็อก หลับทราบว่า แฟนหนุ่มอาบน้ำกับแม่ แม้เขาจะเรียนอยู่ในระดับชั้นมหาวิทยาลัยแล้วก็ตาม ชาวเน็ตแนะให้เลิก เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ สำนักข่าว เวิลด์ออฟบัซ ได้รายงานว่า หญิงไต้หวันคนหนึ่งได้ออกมาโพสต์ข้อความลงในเว็บบอร์ด บอกเล่าเหตุการณ์สุดแปลก โดยเธอเล่าว่าในช่วงตรุษจีนที่ผ่านมา เธอได้อาศัยพักที่บ้านของแฟนหนุ่ม ซึ่งเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย

แฟนหนุ่มก็ได้บอก เธอว่าเขาจะไปอาบน้ำ ก่อนจะพูดประโยคต่อมา ทำเอาฝั่งหญิงถึงกับช็อก โดยประโยคที่ว่าคือ “แม่รอเขาอยู่” โดยแฟนสาวที่ได้ยินประโยคดังกล่าวถึงกับต้องถามซ้ำว่า “นายอยู่มหาวิทยาลัยแล้ว ยังอาบน้ำอีกแม่อีกหรอ?” ซึ่งฝ่ายก็ตอบมาว่า “ใช่ เธอตกใจอะไร?”

ที่ยิ่งไปกว่านั้นผู้เป็นแม่ยังถูหลังและชำระร่างกายลูกชายของเธอด้วย สร้างความงุนงงกับฝั่งแฟนสาวเป็นอย่างมาก เพราะเธอไม่เคยเจอเด็กมหาลัยคนไหนที่ให้แม่อาบน้ำให้มาก่อน ทั้งนี้แฟนหนุ่มกลับบอกเธอว่า มันเป็นเรื่องปกติ และตอกแฟนสาวกลับไปว่า อย่าเว่อร์เกินไป

หลังจากที่เรื่องราวสุดแปลกนี้ถูกเผยแพร่ออกไป ชาวเน็ตก็ได้ออกมาวิจารณ์กันอย่างมาก ส่วนใหญ่ก็ได้บอกให้ทางหญิงคนดังกล่าวเลิกกับแฟนหนุ่มคนนี้ทันที

ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ฯ ตระหนักถึงความจำเป็นที่จะต้องตรวจสอบเชื้อโอไมครอนสายพันธุ์ต่างๆให้ได้อย่างรวดเร็ว ภายใน 24-48 ชั่วโมง ไม่ว่าจะเป็น เดลตา หรือโอไมครอน สายพันธุ์ย่อย BA.2, BA.4, BA.4.6, BA.5, BA.2.12.1, BA.2.75, BA.2.75.1, BA.2.75.2 ฯลฯ เพราะการรักษาโควิด-19 เริ่มมีลักษณะของการแพทย์แม่นยำ และมุ่งเป้า (precision medicine) มากขึ้นเป็นลำดับ ต่างจากการรักษาในช่วงต้นของการระบาดในปี 2019 ซึ่งผู้ป่วยทุกรายรักษาเหมือนกัน (One-size-fits-all) เนื่องจากปัจจุบันพบว่าเวชภัณฑ์ อาทิ วัคซีน (เข็มหลัก และ เข็มกระตุ้น) ยาต้านไวรัส และ แอนติบอดีสำเร็จรูปที่ใช้รักษาโรคโควิด-19 หลายประเภทมีประสิทธิภาพในการป้องกันหรือรักษาไวรัสโคโรนา 2019 แต่ละสายพันธุ์ ที่แตกต่างกัน อย่างเช่นกรณีของโอไมครอน BA.4.6 และ BA.2.75.2 เหลือยาแอนติบอดีสังเคราะห์ “เบบเทโลวิแมบ/bebtelovimab” ที่ยังสามารถยับยั้งการเพิ่มจำนวนของโอไมครอน BA.4.6 และ BA.2.75.2 ได้

จากข้อมูลรหัสพันธุกรรมโควิดโลก “GISAID” ล่าสุดพบผู้ติดเชื้อโอไมครอนสายพันธุ์ย่อย “BA.2.75.2” รายที่สองในไทยเป็น “หญิง” เก็บตัวอย่างเมื่อวันที่ 18 ก.ย. 2565 จาก รพ. เอกชนใน กทม. (ภาพ 0)

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป